เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อสองปีที่แล้วแม่ดิฉันได้ให้เงินกู้กับคุณยายท่านนึงซึ่งเอาที่ดิน 200 ตารางวา มาจำนองด้วยเงิน 1 ล้านบาท โดยฝากฉโนดไว้และไม่ได้ไปทำที่ที่ดิน

ต่อมาเมื่อครบหนึ่งปีตามสัญญา คุณยายไม่นำเงินมาคืน แม่จึงไปทวงถามและลูกสาวยายบอกว่าจะเอาเงินมาคืนเร็วๆนี้ แม่จึงรอและลองตรวจสอบฉโนดที่ดินอีกครั้งหากจำเป็นต้องฟ้องศาล ปรากฎว่าฉโนดดังกล่าวเป็นฉโนดที่ติดจำนองอื่นอยู่ และหมดอายุเวลาจำนองแล้ว

แม่คงไม่มีทางเลือกจึง ยังเจรจากับลูกสาวยายขอให้เอาเงินมาคืน แต่ลูกสาวยายกลับกรุเรื่องว่าจะได้เงินมาคืนครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ติดภาระต่างๆนานา ถูกตำรวจผู้มีอิทธิพลข่มขู่บ้าง ถูกพนักงานแบงค์รีดไถบ้าง แฟนถูกยัดยาบ้าบ้าง ต่างๆนานา และ มาขอร้องขอเงินจากแม่ไปอีก นับรวมกันแล้วเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ภายในเวลา 2 ปี

ดินฉันเพิ่งมาทราบเรื่องเพราะล่าสุดแม่มาเอาเงินดินฉันไปอีก 200,000 บาท ก่อนหน้านี้เอาไปแล้วจำนวนนึง  พอดิฉันคาดคั้นจึงยอมบอกว่าลูกสาวยายอ้างว่าจะเอาเงินมาคืน 2 ล้านบาท วันรุ่งขึ้น ถ้าเอาเงินประกันแฟนที่โดนจับติดยาบ้าออกมาได้  โดยมีเงื่่อนไขว่าต้องจ่ายเงินอีก 200,000 บาท เพื่อให้นายตำรวจผู้ใหญ่ท่านนึงช่วย ดิฉันบอกแม่ว่าถ้าเป็นเรื่องจริงขอไปเจอตำรวจคนนี้ แต่แม่กลับแอบเอาเงินไปให้ลูกสาวยายอีกโดยไม่บอกดิฉัน สุดท้ายผ่านไปอาทิตย์นึง ก็ยังไม่ได้เงินคืืน แถมลูกสาวยายยังกรุเรื่องต่ออีกว่าตำรวจที่ยัดยาบ้าแฟนแกโดนจับแล้ว คราวนี้จะเอาเงินออกมาได้จริงๆ วันอาทิตย์หน้า

นอกจากนี้ ล่าสุดแม่มีพฤติกรรมแปลกๆเที่ยวหยิบยืมเงินญาติๆ เป็นจำนวนมาก พอดิฉันถามก็บอกมีคนมาจำนองที่เพิ่มอีกหลายคนดิฉันถามแม่ก็ไม่ค่อยยอมเล่า และ ตวาดกลับ

ดิฉันคิดว่าแม่ต้องถูกหลอกแน่ และกลัวว่าจะมาเป็นแก๊ง เพราะเรื่องราวต่างๆที่ลูกหนี้แต่ละคนเล่ามันสนับสนุนด้วยกันเอง ดิฉันไม่ได้เสียดายเงินเท่าเป็นห่วงแม่ ที่ต้องอยู่ในวังวนของคนลวงโลก และ อาจไม่ปลอดภัย ดิฉันควรทำอย่างไรดีค่ะ