ReadyPlanet.com


รบกวนขอคำปรึกษา...คดีฉ้อโกงประชาชนด้วยครับ...


เหตุที่เกิดมีรายละเอียดดังนี้ครับ...

  เมื่อประมาณปี 2553 ผมสนิทกับรุ่นพี่ท่านหนึ่ง ซึ่งผมก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง มีปัญหาเดือดร้อนอะไรก็จะปรึกษาอยู่บ่อยๆ และพี่ท่านนี้ยังพาผมไปทำงานพิเศษในเวลาที่ผมว่างจากช่วยแม่ขายของด้วย เวลาที่ผมไปทำงานพิเศษกับเขา (เช่น ออกบูธ-ทำแบบสอบถามตามมหาลัยฯ) มีบางครั้งพี่เขาก็มาขอยืมบัตร ATM ของผมไป โดยบอกว่าตัวแทนที่จ้างงานโอนเงินเข้ามาแต่บัตรเขากดเต็มวงเงินแล้วจึงขอยืมบัตรผมแทน หรือที่บ้านโอนมา ลูกหนี้โอนมาบ้าง ผมเกรงใจและไม่คิดอะไรก็ให้ไป

ต่อมาเมื่อต้นปี 2554 คนที่เช่าคอนโดของแม่ผม (ทะเบียนบ้านผมอยู่ที่คอนโดที่ให้เช่านี้ครับ) บอกว่ามีชาย 2 คนอ้างเป็นตำรวจมาถามหาผมแล้วเข้ามาค้นภายในห้องบอกว่ามีหมายค้นด้วย ผู้เช่าจึงตกใจจึงให้เข้ามาแต่ไม่มีอะไรเสียหาย จึงมาบอกกับแม่ผมให้ฟัง ผมได้ฟังต่อจากแม่ก็ตกใจว่าตำรวจมาตามหาผมทำไมแต่คิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิดก็เลยไม่ได้คิดมากเท่าไหร่ ช่วงตั้งแต่ต้นปี 2554 ผมก็ไม่ได้กลับไปทำงานพิเศษกับพี่ที่ยืมบัตร ATM ของผมแล้วเพราะแฟนผมอยากให้ทำงานประจำ ตั้งแต่ต้นปีผมก็สมัครงานมาตลอด บางครั้งเหมือนว่าจะได้งานแน่ๆอยู่แล้วก็กลับไม่ได้ เป็นแบบนี้อยู่หลายที่ จนเมื่อสิงหาคม 2554 มีบริษัทหนึ่งโทรมาบอกว่าที่ไม่รับผมเพราะผมมีหมายจับคดีฉ้อโกง ผมตกใจก็ปรึกษาคนโน่นคนนี้ไปทั่วว่าต้องทำยังไงทำไมอยู่ดีๆผมถึงมีหมายจับ และผมยังได้โทรปรึกษาพี่ที่ยืมบัตรผมในตอนนั้นด้วย เขาก็รับฟังที่ผมบอกแต่แทบไม่ค่อยออกความเห็นอะไร จนทางบ้านผมบอกให้ผมติดต่อไปแสดงความบริสุทใจกับทาง สน.ที่ออกหมายจับผมไว้ ผมก็ไปเจ้าหน้าที่จึงแจ้งผมว่า มีผู้หญิงท่านหนึ่งติดต่อซื้อขายโทรศัพท์ทางอินเตอร์เน็ต ราคา 8700 บาท แต่ไม่ได้รับของ แต่ผู้หญิงท่านนี้ได้โอนเงินมาเข้าบัญชีที่เป็นชื่อของผมก่อนแล้ว ตอนนั้นผมไม่เคยขายอะไรทางอินเตอร์เน็ตและให้เลขบัญชีเลยผมก็ปลกใจ แต่หมายจับออกปี 2553 ซึ่งมีคนเดียวที่ผมให้เลขบัญชีและยืมบัตรด้วย ก็มีแค่พี่คนที่ผมบอกไปตอนต้น ผมพยายามติดต่อเขาแต่ก็ติดต่อไม่ได้ สุดท้ายโชคดีที่ทางตำรวจนัดคู่กรณีมาเจรจาได้ ผมจึงได้ชดใช้เงินจำนวนนั้น และทางคู่กรณีก็ถอนแจ้งความให้

หลังจากนั้นผมก็ติดตามหาตัวพี่ที่ยืมบัญชีและบัตรผม ทุกที่ที่เขาไปประจำก็ไม่เจอ และคิดว่าเรื่องคงจะจบแล้ว จนเมื่อปลายปี 2555 ผมได้สมัครงานไว้ที่หนึ่ง ผมได้รับคัดเลือก หลังปีใหม่บริษัทแจ้งว่าจะโทรมาตกลงเรื่องนัดวันเซ็ต์สัญญาอีกครั้ง แต่ก้ไม่ติดต่อมาผมร้อนใจและอยากจะทำงานที่นี่มาก เพราะบริษัทนี้มีสวัสดิการและความมั่นคงที่ดี ผมจึงโทรไปสอบถามกับทางฝ่ายบุคคล ได้รับคำตอบว่าผมมีคดีติดตัวอยู่ ผมจึงบอกว่าเป็นคดีที่เกิดจากมีคนแอบอ้างเอาบัญชีผมไปใช้ และผมก็ชดใช้เงินผู้เสียหายแทนแล้ว

ทางบริษัทจึงบอกให้ผมเอาใบถอนแจ้งความมายืนยัน ตอนนั้นผมเข้าใจว่าประวัติผมคงค้างอยู่ทางเจ้าหน้าที่น่าจะลืมลบ จึงโทรไปสอบถามกับทางผู้กองที่ทำคดีผมตอนนั้น เพื่อแจ้งให้ช่วยออกเอกสารใบถอนแจ้งความและเซ็นต์รับรองเอกสารให้ผมใช้เริ่มงาน ทางผู้กองก็ขอเลขบัตร ปชช ผมไปเช็ค ซักพักก็โทรมาหาผมเองว่าจะเข้ามาเอาเอกสารเมื่อไหร่ ผมติดธุระอยู่จึงบอกว่าพรุ่งนี้ได้ไหมครับ แต่ทางผู้กองบอกว่าเข้ามาวันนี้เลยจะได้คุยอะไรกันด้วย ผมบริสุทใจ และไม่เอะใจอะไรก็เดินทางไปที่ สน. พอไปถึงทางผู้กองก็บอกว่าเช็คแล้ว ผมมีหมายจับเพิ่มที่ ปคบ. หมายออกกลางปี 2554 ผมก็งงครับว่ามีได้ยังไงก็เมื่อปี 2554 ปลายเดือนสิงหาคม ผมยังไป สน. อยู่เลยและก็ไม่ได้แจ้งผมในตอนนั้น ทางผู้กองบอกว่าอาจจะยังไม่เข้าระบบ หมายจับ ปคบ. ออกมาแจ้งว่าผมผิด พรบ.ธุรกิจขายตรง และฉ้อโกงประชาชน ผู้เสียหายที่แจ้งความเป็นผู้หญิงหนึ่งท่าน บอกว่าได้สั่งโทรศัพท์แล้วไม่ได้รับของ ยอดเงินโอนเข้ามาบัญชีผม 4300 บาท ผมใช้ตำแหน่งราชการของอาประกันตัวออกมา ผมเครียดมากเลยครับตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไง ธุรกิจขายตรงผมก็ไม่เคยทำ แล้วฉ้อโกงประชาชนอีก ตั้งแต่รู้เรื่องนี้ผมนอนไม่หลับเลย ลูกสาวผมก็เพิ่งเข้าอนุบาล ผู้เสียหายบอกว่าผมไปโพสประกาศขายของแบบพรีออเดอร์ ผมไปติดต่อกระทรวงไอซีที ได้รับความช่วยเหลือดีมากครับ แต่เลข IP คนที่โพสถ้ากระทู้ถูกลบไปแล้ว จะไม่สามารถดูได้ครับไอซีทีแจ้งผมแบบนั้น ขอความช่วยเหลือด้วยนะครับ ผมต้องมีหลักฐานอะไรบ้างครับ แนวทางที่ผมควรจะทำมีอะไรบ้าง แล้วสุดท้ายผมต้องถูกจำคุกหรือเปล่า ห่วงลูกสาวและแฟนผมมากครับ ผมไม่มีเงินมากพอที่จะจ้างทนายความด้วย รบกวนช่วยให้คำแนะนำผมด้วยครับผมปวดหัวและเครียดมากๆเลย



ผู้ตั้งกระทู้ mat :: วันที่ลงประกาศ 2013-01-30 09:28:03 IP : 14.207.96.31


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3368266)

ถ้าคุณไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดจริงๆ  คุณก็ไม่ต้องกลัวค่ะ ว่าจะต้องถูกจำคุก เพราะศาลจะพิพากษาจำคุกใครนั้นคนนั้นต้องเป็นผู้ที่ได้กระทำผิดตามกฎหมาย

และตอนนี้คุณก็ควรแจ้งความไว้เป็นหลักฐานถึงเหตุการณ์นี้ก่อนในเบื้องต้นค่ะ เพราะเป็นการไม่แน่ว่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับคุณอีกหรือเปล่า กรณีการเก็บหลักฐานต่างนั้น  อะไรที่เกี่ยวข้องก็ควรเก็บไว้ทั้งหมดค่ะ เพราะจะมีความต่อเนื่องและเชื่อมโยงกันในเหตุการณ์ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ทีมงาน jollaw วันที่ตอบ 2013-01-30 10:31:40 IP : 110.169.218.32


ความคิดเห็นที่ 2 (3368303)

เวลาแจ้งต้องบอกว่าอย่างไรบ้างครับ ผมไปแจ้งแล้วทางเจ้าหน้าที่้บอกว่าแจ้งไปถ้าคนที่เราแจ้งบอกไม่รู้เรื่องละ บอกอีกว่าก็ชื่อบัญชีเราเอง ผมก็ไม่ได้แจ้งซักทีอยากแจ้งความเป็นหลักฐานเหมือนกัน แล้วถ้ารู้แค่ชื่อจริงจะแจ้งได้ไหมครับ ขอบคุณมากๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น mat วันที่ตอบ 2013-01-30 11:10:40 IP : 14.207.96.31



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล