หากเจ้าหนี้มีพฤติกรรมการข่มขู่ทำให้คุณเกิดความกลัว ความตกใจ คุณก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหนี้ได้ครับ  ส่วนกรณีที่คุณได้ทำสัญญากู้ยืม และลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้ไว้ หากเจ้าหนี้ใช้สิทธิโดยสุจริตไม่กรอกข้อมูลที่บิดเบือนความจริง  เขาก็สามารถนำหลักฐานสัญญากู้ยืมมาฟ้องคดีได้ครับ    ทั้งนี้การคิดดอกเบี้ยต้องไม่เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ คิอกรณีมีการกำหนดดอกเบี้ยก็ต้องไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี หากไม่ได้ระบุดอกเบี้ยก็คิดได้ 7.5 ต่อปี การเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อาจมีความผิดตามพ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 มาตรา 3 อีกด้วย 

ขอบคุณค่ะที่ตอบคำถาม แล้วตำรวจเค้าจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้หรือค่ะ เห็นส่วนใหญ่เห็นลูกหนี้หายตัวไปเลยก็มีค่ะ

                          อย่างน้อยการแจ้งความเพื่อให้ตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่า มีบุคคลใดที่มาข่มขู่ และแสดงพฤติกรรมไว้อย่างไร  หากเกิดปัญหาอะไรกับคุณในอนาคต  บุคคลที่ต้องสงสัยอย่างน้อยก็บุคคลที่คุณได้แจ้งความไว้แน่นอนครับ

ดิฉันเป็นหนี้นอกระบบค่ะ  ร้อยละ20บต่อเดือน แต่เนื่องด้วยดิฉันมีหนี้รายวันด้วยค่ะ ดิฉันจ่ายรายวันไม่ไหวแล้ววันไหนไม่มีก็หยุดไม่ได้ค่ะ จนล่าสุดโดนข่มขู่จนรู้สึกอยู่บ้านไม่ได้เลยต้องหนีค่ะ รู้สึกหวาดกลัวหวาดระแวงไปหมดเลยค่ะ แต่ดิฉันพยามเคลียแล้วแต่มันเคลียอยากจริงๆค่ะตรงรายวัน ดิฉันควรทำยังไงดีค่ะ ดิฉันก็ยังมีร้อยละ20ต่อเดือนอีกต่างหาก ดิฉันก็เคลียกับเงินกู้ที่ดิฉันกู้มาร้อย20 นะค่ะ ว่าตอนนี้ดิฉันสถานภาพการเงินไม่เหมือนเดิม คือเริ่มจ่ายไม่ไหว ตอนนี้หนีรายวันมาดิฉันก็บอกกับเค้า แล้วขอจ่ายต้นทุกเดือน เดือนละ5000บ.โดยขอชำระเงินต้นจ่ายทุกเดือนจนครบจำนวนเงินที่ดิฉันกู้ยืมมา และขอเริ่มจ่ายเดือนมิถุนายน 2566 แต่ดิฉันก็คิดว่าเคลียกับเจ้าหนี้ลงตัวแล้วเพราะทางนั้นเค้าก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เค้าก็ยอมให้เราจ่ายเริ่มเดือนมิถุนายน  แต่พอเรามารู้อีกทีเจ้าหนี้ก็ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเราไว้แล้ว ทั้งที่เราคิดว่าเคลียแล้ว และไม่ได้ขาดการติดต่อหรือหายไปไหน แบบนี้ดิฉันควรทำอย่างไรดีค่ะ