หลักเกณฑ์การผ่อนผัน
นอกจากทางราชการจะยกเว้นให้แก่บุคคลบางประเภทไม่ต้องไปเข้ารับราชการเกณฑ์ทหารแล้ว ยังผ่อนผันให้แก่บุคคลบางประเภทเช่นกัน มีรายละเอียดดังนี้
๑. ผ่อนผันให้แก่บุคคลบางประเภทไม่ต้องไปตรวจเลือกเป็นการผ่อนผันให้เฉพาะคราว (มาตรา ๒๗)ได้แก่
๑.๑ ข้าราชการซึ่งได้รับคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยปัจจุบันทันด่วนให้ไปราชการอันสำคัญยิ่ง หรือไปราชการต่างประเทศโดยคำสั่งของเจ้า
กระทรวง
๑.๒ ข้าราชการหรือผู้ปฏิบัติงานในสถานที่ราชการหรือโรงงานอื่นใด ในระหว่างที่มีการรบหรือการสงคราม อันเป็นอุปกรณ์ในการรบหรือการ
สงครามและอยู่ในความควบคุมของกระทรวงกลาโหม
๑.๓ บุคคลซึ่งกำลังปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยทหารในราชการสนาม
กรณีตามข้อ ๑.๑, ๑.๒, และ ๑.๓ เจ้าตัวที่ถูกเรียกจะต้องนำหมายเรียก ฯ รายงานส่วนราชการต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อส่งรายชื่อพร้อมหลักฐานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดภูมิลำเนาทหาร ซึ่งจะได้สั่งผ่อนผันให้ตามระเบียบ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบอำนาจในการผ่อนผันการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัด
ปฎิบัติราชการแทน)
๑.๔ นักเรียนซึ่งออกไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ
๑.๔.๑ ถ้าเป็นทุนของกระทรวง ทบวง กรม หรือ ส่วนราชการใด โดยอยู่ในความประพฤติของผู้ดูแลนักเรียนไทย ของรัฐบาลไทยสำหรับประเทศ
นั้น ๆ สำนักงาน ก.พ.จะเป็นผู้ดำเนินการผ่อนผันต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูมิลำเนาทหารให้ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะออกหนังสิอผ่อนผันการตรวจเลือกเข้ารับ
ราชการทหาร(แบบ สด.๔๑) ให้ไว้เป็นหลักฐานโดยมีเงื่อนไขว่า "ถ้าต้องออกจากการศึกษากลับจากต่างประเทศมาถึงประเทศไทยก่อนกำหนด หรือ ก.พ. ได้ขอถอนการผ่อนผัน การผ่อนผันเป็นอันยุติ" กรณีนี้เจ้าตัวจะต้องแจ้งด้วยตนเองต่อนายอำเภอภูมิลำเนาทหารและถ้าอายุยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์จะต้อง
เข้ารับการตรวจเลือกด้วย
๑.๔.๒ ถ้าเป็นทุนส่วนตัว ต้องให้บิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครอง ยื่นคำร้องขอผ่อนผันต่อนายอำเภอภูมิลำเนาทหาร (อำเภอที่ได้ลงบัญชีทหาร
กองเกินไว้แล้ว) พร้อมด้วยหลักฐานดังนี้
๑.๔.๒.๑ หนังสือรับรองของสำนักศึกษา(ระบุว่าไปศึกษาวิชาอะไร หลักสูตรกี่ปีให้แปลเป็นภาษาไทยกำกับ ลงชื่อ ตำแหน่งผู้แปลด้วย)
๑.๔.๒.๒ หนังสือรับรองของสถานทูต หรือ สถานกงสุล หรือผู้ดูแลนักเรียนไทยในประเทศนั้น ๆ
๑.๔.๒.๓ สำเนาใบสำคัญ (แบบ สด.๙)
๑.๔.๒.๔ หมายเรียก ฯ (แบบ สด.๓๕) ถ้ามี
๑.๔.๒.๕ สำเนาทะเบียนบ้าน
เมื่อทางอำเภอสอบสวนและพิจารณาแล้วเห็นว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการผ่อนผัน ก็จะดำเนินการให้โดยส่งหลักฐานไปยังจังหวัดเมือผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาแล้ว เห็นว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ ก็จะออกหนังสือผ่อนผันการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.๔๑) ให้ไว้เป็นหลักฐานโดยมีเงื่อนไขว่า "ถ้าต้องออกจากการศึกษา กลับจากต่างประเทศ มาถึงประเทศไทยก่อนกำหนด การผ่อนผันเป็นอันยุติ"กรณีนี้เจ้าตัวจะต้องแจ้งด้วยตนเองต่อ
นายอำเภอภูมิลำเนาทหารและถ้าอายุยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์ จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกด้วย
๑.๕ เกิดเหตุสุดวิสัย กรณีนี้ไม่มีการผ่อนผันล่วงหน้าแต่เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยแม้จะได้ระมัดระวังแล้วก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ทหารกองเกินเดินทาง
ไปเข้ารับการตรวจเลือก ประสพอุบัติเหตุรถคว่ำหรือเรือล่มระหว่างเดินทาง จนไปเข้ารับการตรวจเลือกไม่ได้อย่างนี้ ก็ไม่ถือว่าหลีกเลี่ยงขัดขืน แต่การที่จะทราบ
ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยหรือไม่นั้นจะทราบได้ต่อเมื่อทางอำเภอได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว
๑.๖ ไปเข้าตรวจเลือกที่อื่น ซึ่งต้องเข้าหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ คือ อายุ ๒๒-๒๙ ปีบริบูรณ์ถ้าได้รับหมายเรียกและไม่สามารถจะไปตามหมาย
นั้นได้เพราะไม่มีค่าพาหนะหรือจะไปไม่ทัน เมื่อนายอำเภอนั้นสอบสวนได้ความจริงก็จะรับเข้าตรวจเลือกตามระเบียบ
๑.๗ ป่วยไม่สามารถเข้ารับการตรวจเลือกได้ โดยให้บุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะ และเชื่อถือได้มาแจ้งต่อคณะกรรมการตรวจเลือกในวันตรวจเลือก กรณีนี้ต้องนำใบรับรองแพทย์ไปแสดงด้วย และเมื่อเสร็จการตรวจเลือกแล้ว ทางอำเภอจะเรียกตัวผู้ไปแจ้งสอบสวน และสอบสวนตัวผู้ป่วยด้วย หากป่วยจริงก็ไม่ถือว่าหลีกเลี่ยงขัดขืน ทางอำเภอจะมอบหมายเรียกให้มาเข้ารับการตรวจเลือกในปีถัดไป
๒. ผ่อนผันให้แก่บุคคลบางประเภทในกรณีที่มีคนพอ (มาตรา ๒๙)ได้แก่
๒.๑ บุคคลที่จำเป็นต้องหาเลี้ยงบิดาหรือมารดาซึ่งไร้ความสามารถ หรือพิการทุพพลภาพ หรือชราจนหาเลี้ยงชีพไม่ได้และไม่มีผู้อื่นเลี้ยงดู แต่ถ้ามีบุตรหลายคนจะต้องเข้ากองประจำการพร้อมกันคงผ่อนผันให้คนเดียวตามแต่บิดาหรือมารดาจะเลือก ถ้าบิดาหรือมารดาไม่สามารถจะเลือกได้ก็
ให้คณะกรรมากรตรวจเลือกพิจารณาผ่อนผันให้หนึ่งคน
๒.๒ บุคคลที่จำเป็นต้องหาเลี้ยงบุตรซึ่งมารดาตาย หรือไร้ความสามารถ หรือพิการทุพพลภาพ และบุคคลที่จำเป็นต้องหาเลี้ยงพี่หรือน้องร่วมบิดา
มารดา หรือร่วมแต่บิดาหรือมารดาซึ่งบิดามารดาตาย ทั้งนี้เมื่อบุตรหรือพี่น้องนั้นหาเลี้ยงชีพไม่ได้ และไม่มีผู้อื่นเลี่ยงดู
การผ่อนผันตามข้อ ๒.๑ และ ๒.๒ จะต้องร้องขอผ่อนผันต่อนายอำเภอท้องที่ก่อนวันตรวจเลือกทหารไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน เพื่อนายอำเภอจะได้สอบสวนหลักฐานไว้ก่อนวันตรวจเลือก และต้องร้องขอต่อคณะกรรมการตรวจเลือกในวันตรวจเลือกอีกครั้งหนึ่ง เพื่อคณะกรรมการตรวจเลือกจะได้พิจารณา หากเห็นว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ก็จะผ่อนผันให้ กรณีนี้เป็นการผ่อนผันเป็นปี ๆ ไป หากปีต่อไปยังมีความจำเป็นอยู่เช่นเดิม ก็ต้องขอผ่อนผันใหม่และปฏิบัติเช่นเดียวกับปีก่อน ๆ ถ้าไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ผ่อนผันเมื่อใด และอายุยังไม่ถึง ๓๐ ปีบริบูรณ์ ก็ต้องเข้ารับการตรวจเลือก
๒.๓ บุคคลที่อยู่ในระหว่างการศึกษาตามที่กำหนดในกฎกระทรวงฉบับที่ ๗๓ (พ.ศ.๒๕๓๖) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗
๒.๓.๑ นิสิตหรือนักศึกษามหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ผ่อนผันให้เฉพาะผู้ซึ่งระหว่างการศึกษาที่ไม่สูงกว่าชั้นปริญญาโท และผ่อนผันให้จนถึงอายุครบ ๒๖ ปีบริบูรณ์ เว้นแต่นิสิตหรือนักศึกษาวิชาแพทย์ศาสตร์ ผ่อนผันให้ในระหว่างที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลหรือสถาบันทางแพทย์
เพื่อขึ้นทะเบียน และรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรมอีกปีหนึ่ง สำหรับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผ่อนผัน
ให้เฉพาะผู้ซึ่งมีผลการศึกษาสอบไล่ได้ภาคละไม่น้อยกว่า ๙ หน่วยกิต ทุกภาคติดต่อกันเว้นแต่ภาคใดขาดสอบเพราะเหตุสุดวิสัยซึ่งมหาวิทยาลัยรับรอง
๒.๓.๒ นักศึกษามหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนผ่อนผันให้เฉพาะ ผู้ซึ่งอยู่ในระหว่างการศึกษาเพื่อรับประกาศนียบัตรหรือปริญญา
ที่ไม่สูงกว่าชั้นปริญญาโท และผ่อนผันให้จนถึงอายุครบ ๒๖ ปีบริบูรณ์ เว้นแต่นักศึกษาวิชาแพทย์ศาสตร์ ผ่อนผันให้ในระหว่างที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล หรือสถาบันทางแพทย์เพื่อขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรมอีกปีหนึ่ง
๒.๓.๓ นักเรียนหรือนักศึกษาโรงเรียนอาชีพหรือวิทยาลัยสังกัดหรืออยู่ในความควบคุมของกระทรวง ทบวง หรือองค์การของรัฐ ผ่อนผันให้
เฉพาะผู้ซึ่งอยู่ในระหว่างการศึกษาเพื่อรับประกาศนียบัตรหรือปริญญาตรี หรือวิทยฐานะซึ่งทางราชการรับรองว่าเทียบเท่าได้ไม่สูงกว่าชั้นปริญญาตรี
และผ่อนผันให้จนถึงอายุครบ ๒๖ ปีบริบูรณ์
๒.๓.๔ นักเรียนโรงเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายผ่อนผันให้ไม่เกินอายุ ๒๒ ปีบริบูรณ์
วิธีปฏิบัติในการผ่อนผันนักเรียน นิสิต นักศึกษา จะต้องนำหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.๓๕) ไปแสดงต่อสถานศึกษาเพื่อให้เจ้าหน้าที่
ของสถานศึกษาดำเนินการขอผ่อนผันให้ ดังนี้
ก. กรณีเป็นโรงเรียน ให้แจ้งต่อ กรมหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น และมีฐานะเทียบเท่ากรมซึ่งโรงเรียนนั้นอยู่ในสังกัดหรืออยู่ในความควบคุมแล้วแต่กรณี เพื่อขอผ่อนผันไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่ผู้นั้นมีภูมิลำเนาทหารอยู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจำการ(ปีที่มีอายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์)
ข. กรณีเป็นมหาวิทยาลัย สถาบัน หรือวิทยาลัยของรัฐให้ขอผ่อนผันไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งผู้นั้นมีภูมิลำเนาทหารอยู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์
ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจำการ (ปีที่มีอายุครบ ๒๑ ปีปริบูรณ์)
ค. สำหรับ มหาวิทยาลัย สถาบัน หรือวิทยาลัย ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ให้แจ้งต่อทบวงมหาวิทยาลัย เพื่อขอผ่อนผันไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งผู้นั้นมีภูมิลำเนาทหารอยู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจำการ
ข้อควรจำ
นักเรียน นิสิต นักศึกษา ซึ่งมีสิทธิได้รับการผ่อนผันตลอดเวลาที่อยู่ในระหว่างการศึกษา จะต้องไปแสดงตนต่อคณะกรรมการตรวจเลือก ในวันตรวจ
เลือกทุกปีตามที่กำหนดไว้ในหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร(แบบ สด.๓๕) เมื่อไปแสดงตนจะได้รับใบรับรองผลการตรวจเลือก (แบบ สด.๔๓) ในฐานะคนผ่อนผันไว้เป็นหลักฐาน หากไม่ไปแสดงตนต่อคณะกรรมการตรวจเลือกจะมีความผิดตามกฎหมาย และเมื่อสำเร็จการศึกษาหรืออายุครบ ๒๖ ปีบริบูรณ์แล้ว ถือว่าหมดเหตุผ่อนผันให้แจ้งด้วยตนเองต่อนายอำเภอหรือท้องที่ที่ตนอยู่ หรือทำการประจำภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่สำเร็จการศึกษาหรือ
มีอายุครบ ๒๖ ปีบริบูรณ์แล้ว เพื่อที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหาร(เกณ์ทหาร) ต่อไป อย่างไรก็ดี หลังจากทำเรื่องขอผ่อนผันแล้วเพื่อความมรอบคอบ ประมาณเดือนมีนาคมของปีที่สัสดีจังหวัดภูมิลำเนาทหารด้วยตัวเอง หรือให้ผู้ปกครองไปสอบถามแทนก็ได้ว่าเรื่องขอผ่อนผันได้ดำเนินการแล้วหรือยัง หากยังจะได้ดำเนินการแก้ไขได้ทันเวลา ทั้งนี้เพื่อป้องกันการผิดพลาดทางธุรการจนเป็นเหตุให้เสียสิทธิต้องเข้ารับการตรวจเลือกจะอาจถูกเข้ากองประจำการได้
๓. การผ่อนผันให้แก่ผู้ที่ถูกเป็นทหารเพื่อลาศึกษานักเรียน นิสิตนักศึกษาที่ไม่ได้รับการผ่อนผัน เมื่อไปตรวจเลือกทหารและถูกเข้ากองประจำการ จะมีสิทธิได้รับการผ่อนผันให้ลาศึกษาต่อได้เฉพาะหลักสูตรสาขาวิชาและในสถานศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่เท่านั้น ถ้าสำเร็จการศึกษาหรือต้องออกจากสถานศึกษา
นั้น ๆ หรือมีอายุครบ ๒๖ ปีบริบูรณ์แล้ว ก็ให้กลับเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการตามสังกัดและจะต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ดังนี้ คือ
๓.๑ เป็นผู้ที่สอบคัดเลือกเข้าศึกษาในสถานศึกษาแห่งใหม่แต่อยู่ในระหว่างรอฟังผลสอบ
๓.๒ เป็นผู้ที่ไม่ได้ขอผ่อนผันการตรวจเลือกตามกฎหมายเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยเพราะประสพอุบัติเหตุหรือป่วยซึ่ง
๓.๓ กรณีที่ไม่ใช่ความผิดของนักศึกษาและเป็นเหตุให้นักศึกษาไม่ได้รับสิทธิผ่อนผัน เช่น เจ้าหน้าที่ของสถานศึกษาส่งรายชื่อเพื่อขอผ่อนผัน
ผิดพลาดหรือตกหล่น , หรือเอกสารหายระหว่างส่งไปยังจังหวัดภูมิลำเนาทหาร, หรือส่งภายหลังการตรวจเลือกเสร็จสิ้นแล้ว
แต่ถ้านักเรียน นิสิต นักศึกษาผู้ใดซึ่งได้รับการผ่อนผันอยู่แล้วไปยื่นคำร้องขอสละสิทธิการผ่อนผันเพื่อเข้ารับการตรวจเลือก กรณีนี้ถ้าถูกเข้ากองประจำ
การไม่มีสิทธิผ่อนผันให้ลาศึกษาต่อ เพราะเป็นความสมัครใจของเจ้าตัวเอง
การยื่นเรื่องขอผ่อนผัน กรณีก่อนรายงานตัวเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ตามกำหนดในหมายนัดของนายอำเภอ ให้สถานศึกษาเป็นผู้ดำเนินการ โดยผ่านกรมและกระทรวงเจ้าสังกัดแล้วให้กระทรวงเจ้าสังกัดแจ้งต่อกระทรวงกลาโหม แต่ถ้าเข้ากองประจำการแล้วให้ยื่นเรื่องขอลาศึกษาต่อจากต้นสังกัด
(หน่วยทหาร) เสนอตามสายการบังคับบัญชาจนถึงกระทรวงกลาโหม ส่วนการจะอนุมัติหรือไม่อนุมัตินั้นเป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถ้าอนุมัติให้ลาศึกษาต่อหน่วยทหารต้นสังกัดจะออกบัตรอนุญาตลาแบบ ๒ ให้ไว้เป็นหลักฐาน
๔.การผ่อนผันการให้แก่แพทย์ที่ถูกเป็นทหารเข้ารับราชการทหารกองประจำการจะผ่อนผันให้แก่แพทย์ซึ่งเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันชั้น ๑ สาขาเวชกรรมซึ่งจบการศึกษาแล้ว และต้องรับราชการชดใช้ทุนให้แก่ทางราชการ เมื่อถูกเข้ากองประจำการจะผ่อนผันให้รับราชการในกองประจำการ
น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดโดยให้ลาพักรอการปลด เพื่อไปรับราชการชดใช้ทุนตามสัญญา ดังนี้
๔.๑ ผู้ที่สำเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ ๑ หรือ ชั้นปีที่ ๒ จากกรมการรักษาดินแดน เมื่อขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้วให้ลาพักรอการปลด
เพื่อไปรับราชการชดใช้ทุนแก่ทางราชการตามส่วนราชการต้นสังกัด โดยขออนุมัติต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ถ้ายังไม่ได้รับการฝึกวิชาทหาร ให้ทำการฝึกวิชาทหารตามระเบียบเป็นเวลา ๘ สัปดาห์ก่อน
๔.๒ ให้กระทรวงหรือทบวงต้นสังกัดที่แพทย์ผู้นั้นรับราชการอยู่ จัดทำบัญชีรายชื่อเฉพาะแพทย์ที่จบการศึกษาแล้ว และจะต้องรับราชการ
ชดใช้ทุนแก่ทางราชการต่อกระทรวงกลาโหมเป็นปี ๆ ก่อนวันตรวจเลือกไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน ถ้าผู้ใดถูกเข้าเป็นทหารกองประจำการก็ให้ส่งบัญชีรายชื่อ
ต่อกระทรวงกลาโหมอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเสร็จการตรวจเลือกของผู้นั้นแล้ว เพื่อดำเนินการตามข้อ ๔.๑
อธิบายศัพท์
- ก่อนรายงานตัว คือ นักศึกษาที่จับสลากแล้วถูกเข้ากองประจำการแต่ยังไม่เข้ารายงานตัวต่อหน่วยต้นสังกัด เช่น จับสลากได้ผลัด ๒ คือ ต้องเข้าหน่วยในวันที่ ๑ พ.ย. แต่เจ้าตัวยังไม่ได้เข้าหน่วยในวันที่ ๑ พ.ย.
- เข้ากองประจำการแล้ว คือ นักศึกษาที่จับสลากแล้วถูกเข้ากองประจำการ ได้เข้ารายงานตัวกับหน่วยแล้ว เช่น จับสลากได้ผลัด ๒ คือ ต้องเข้าหน่วย
ใน ๑ พ.ย. ซึ่งเจ้าตัวได้เข้าหน่วยตั้งแต่วันที่ ๑ พ.ย. ไปแล้ว
ที่มาของข้อมูล กองทัพบก http://www.mod.go.th/misc/officer1.htm |