ประเด็นที่คุณสอบถามคือ

1. เจ้าหนี้ ( ธนาคาร ) จะมายึดทรัพย์สิน ได้หรือไม่

2.กรณีนี้คุณในฐานะบุตร ต้องรับผิดชอบในหนี้บัตรเดรดิตของพ่อหรือไม่

คำตอบ

1. หากเจ้าหนี้ ( ธนาคารดำเนินการฟ้องร้อง และศาลมีคำพิพากษาให้บิดาของคุณชำระหนี้ตามฟ้อง ) ธนาคาร ก็จะออกคำบังคับ และดำเนินการตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อให้มีอำนาจในการยึดหรือายัดทรัพย์สินของจำเลย นำออกขายทอดตลาด เอาเงินมาชำระหนี้ฯ แต่ทั้งนี้ทรัพย์ดังกล่าวต้องเป็นทรัพย์ของจำเลย ( ลูกหนี้ ) หากทรัพย์สิ่งไหน ไม่ใช่ ( ของบุคคลภายนอก ) ก็ต้องดำเนินการร้องขัดทรัพย์ หรือร้องขอกันส่วน แล้วแต่กรณีครับ  สำหรือเรื่องโฉนดหากมีชื่อบิดาของคุณเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์  โจทก์ ( ธนาคาร ) ก็มีสิทธิยึดได้ เว้นแต่โฉนดจะจำนองไว้กับเจ้าหนี้อื่น  ซึ่งเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิ  หากธนาคารยึดไปเมื่อนำขายทอดตลาดก็ต้องหักเงินใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้ในลำดับนี้ก่อนครับ

2. หากคุณไม่ได้เป็นลูกหนี้ร่วมหรือเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ของบิดาของคุณ  คุณก็ไม่ต้องรับผิดแต่อย่างใด เพราะหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้เฉพาะตัวของบิดาของคุณ

           อนึ่ง....หลังจากที่ได้รับหนังสือบอกกล่าวทวงถามจากทนายความแล้ว ( โนติส ) ห้ามยักย้าย ถ่ายเททรัพย์ ที่เป็นของบิดาคุณนะครับ มิเช่นนั้น หากทนายความของธนาคารเข้าสืบทราบว่าพ่อคุณมีพฤติกรรมดังกล่าวหรือมีเจตนาทุจริตเพื่อให้ธนาคารเสียเปรียบไม่ได้รับชำระหนี้ เขาอาจฟ้องเป็นคดีอาญาฐานโกงเจ้าหนี้ได้   ทางที่ดีควรไปประนีประนอม หรือขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ กับธนาคารก่อนที่เขาจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาล