อ้างอิงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ทีเกี่ยวข้อง

มาตรา ๑๓๓๖ 

        ภายในบังคับแห่งกฎหมาย เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิใช้สอยและจำหน่ายทรัพย์สินของตนและได้ซึ่งดอกผลแห่งทรัพย์สินนั้น กับทั้งมีสิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ และมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

มาตรา ๑๓๘๑

           บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนผู้ครอบครองบุคคลนั้นจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือได้ ก็แต่โดยบอกกล่าวไปยังผู้ครอบครองว่าไม่เจตนาจะยึดถือทรัพย์สินแทนผู้ครอบครองต่อไป หรือตนเองเป็นผู้ครอบครองโดยสุจริต อาศัยอำนาจใหม่อันได้จากบุคคลภายนอก

มาตรา  ๑๓๘๒

“บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์”

             วินิจฉัยกรณีตามอุทธาหรณ์ดังกล่าว

            หากข้อเท็จจริงที่ดินเป็นของพี่ชาย และพี่ชายยินยอมให้น้องชายปลูกสร้างบ้านในที่ดินของพี่ชาย  ไม่ว่าระยะเวลาจะนานเท่าไร น้องชายจะมาอ้างสิทธิในที่ดินเพื่อการครอบครองปรปักษ์ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1382  ไม่ได้    ซึ่งหากน้องชายจะให้ได้กรรมสิทธิ์ด้วยการครอบครองปรปักษ์ในที่ดิน  น้องชายจะต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือไปยังพี่ชายว่าตนไม่เจตนาจะยึดถือครอบครองที่ดินแทนต่อไป หรือตนเองเป็นผู้ครอบครองโดยสุจริตอาศัยอำนาจใหม่ อันได้จากบุคคลภายนอก ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1381 และได้ครอบครองที่ดินโดยสงบ  เปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกัน 10 ปี นับแต่ได้บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือแก่พี่ชายดังกล่าวแล้ว น้องชายจึงจะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์   ทั้งนี้กรณีนี้พี่ชายซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าวย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากน้องชาย(ทายาท)ได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336

             สรุป  ทายาทของผู้ตาย ( ลูกๆ ) ไม่มีสิทธิขายที่ดินแปลงดังกล่าวแต่อย่างใด