ในการศึกษาปัจจุบัน วัดความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสนามบินของแคนาดาโดยใช้คำถามแบบสำรวจสามข้อซึ่งผู้ตอบให้คะแนน 1) พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของแคนาดามีความเหมาะสมเพียงใด 2) เจ้าหน้าที่รักษาความ  สนามบิน ของแคนาดาได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีเพียงใด และ 3) ผู้ตอบแบบสอบถามมีความมั่นใจเพียงใดว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของแคนาดาตัดสินใจได้ถูกต้อง ในการศึกษาก่อนหน้านี้Sindhav et al. (2549)พบว่าผู้โดยสารที่ผ่านการรักษาความปลอดภัยของสนามบินแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อย่างมากระหว่างระดับความยุติธรรมที่รับรู้ (การตัดสินใจของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินได้รับการตัดสินว่ายุติธรรมและเป็นกลาง) และความพึงพอใจโดยรวม ในการศึกษานี้ ความยุติธรรมหลายประเภทถูกตรวจสอบ รวมถึงความยุติธรรมแบบกระจาย (เช่น การกระจายอย่างยุติธรรมของทรัพยากรที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้) ความยุติธรรมตามกระบวนการ และความยุติธรรมระหว่างบุคคลและ/หรือระหว่างบุคคล พวกเขาพบว่าในขณะที่ความยุติธรรมทุกรูปแบบมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความพึงพอใจ ความยุติธรรมเชิงกระบวนการแสดงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งที่สุด จากการค้นพบนี้ เราตั้งสมมติฐาน ( H1A) ที่รับรู้ว่าความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (เช่น ความเหมาะสมและสอดคล้องกับกฎระเบียบของพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่คัดกรองความปลอดภัย) จะสัมพันธ์เชิงบวกกับความตั้งใจในการขึ้นเครื่องบิน และ ( H1B ) ว่าผลกระทบของความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะถูกไกล่เกลี่ยผ่านการรับรู้ถึงความปลอดภัยไปสู่ความตั้งใจในการขึ้นเครื่องบิน โดยพื้นฐานแล้ว หากผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีความเป็นมืออาชีพสูง (เช่น ความยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรมในระดับสูง) พวกเขาก็จะมองว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยที่บังคับใช้นั้นมีส่วนอย่างมากต่อความปลอดภัยโดยรวม