อยากปรึกษากฎหมายค่ะรบกวนช่วยให้คำแนะนำทีค่ะจักขอบพระคุณมาก | |
Windows 7: ช่วยให้สิ่งที่คุณทำอยู่ทุกวันง่ายขึ้น ค้นหาพีซีที่เหมาะสมกับคุณ | |
ผู้ตั้งกระทู้ เด้กน้อยผู้น่าสงสาร (nufaii_narak-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2009-12-21 21:27:54 IP : 115.67.142.8 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1478470) | |
เรื่องของคุณค่อนข้างยาว แต่จะตอบตามประเด็นคำถามที่ถามไว้โดยสรุปได้ว่า ในเรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดูนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้กำหนดในมาตรา 1564 ไว้ว่าบิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดู และให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์ ( อายุครบ 20 ก็ไม่ถือว่าเป็นผู้เยาว์ ) และในวรรคสองได้บัญญัติไว้ว่า บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วแต่เฉพาะผู้ทุพพลภาพและหาเลี้ยงตนเองมิได้ มาตรา 1598/38 ค่าอุปการะเลี้ยงดูระหว่างสามีภริยาหรือระหว่างบิดามารดากับบุตรนั้นย่อมเรียกจากกันได้ในเมื่อฝ่ายที่ควรได้รับอุปการะเลี้ยงดูไม่ได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือได้รับการให้เพียงใดหรือไม่ให้ก็ได้โดยคำนึงถึงความสามารถของผู้มีหน้าที่ต้องให้ ฐานะของผู้รับและพฤติการณ์แห่งกรณี ตามประเด็นแรก ในกรณีของคุณนั้น หากบรรลุนิติภาวะแล้วคงจะเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูจากพ่อคุณอีกไม่ได้ เว้นแต่คุณทุพพลภาพ ส่วนน้องคุณคงยังไม่บรรบุนิติภาวะก็สามารถเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูได้ ( เรียกย้อนหลังด้วย ) ประเด็นที่สอง กรณีทรัพย์สมบัติที่ได้ขายไปแล้วนั้นหากที่ดินเป็นทรัพย์ที้ได้มาก่อนสมรส ที่ดินก็เป็นสินส่วนตัวของพ่อ หากเป็นเช่นนี้ คุณคงไม่มีสิทธิไปห้ามมิให้พ่อคุณจำหน่ายหรือขอรับส่วนแบ่งอะไร เว้นแต่พ่อคุณจะสมัครใจให้คุณ ประเด็นที่สาม หากพ่อคุณเสียชีวิตทรัพย์มรดกของพ่อของคุณต้องตกแก่ทายาททุกคน และเมื่อคุณเป็นบุตรที่บิดาให้การรับรองแล้ว ถือว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของพ่อ ( เจ้ามรดก ) คุณก็มีสิทธิได้รับเงิน ตลอดทั้งทรัพย์สิน และสิทธิต่างๆของพ่อของคุณ แต่จะแบ่งเท่าไรก็ต้องพิจารณาจากทายาทที่เหลืออยู่ครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ท.ธีรภัทร์ วันที่ตอบ 2009-12-22 14:56:18 IP : 58.136.48.77 |
[1] |