ReadyPlanet.com


ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับสัญญาจะซื้อจะขายบ้าน


 
ดิฉันจะขอความอนุเคราะห์ และขอคำปรึกษาเกี่ยวกับสัญญาจะซื้อจะขายบ้านดังนี้ค่ะ
 
ดิฉันไปซื้อบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งแต่บ้านยังสร้างไม่เสร็จ และทางบ้านจัดสรรให้ทำสัญญาจะซื้อจะ
ขายโดยผ่อนงวดดาว จำนวน10 งวดโดยเริ่มตั้งแต่ 14 พ.ย. 53 จนบัดนี้ได้ผ่อนงวดดาวไปเรียบร้อยแล้วครบชำระเมื่อ
 14 ก.ย. 54 แล้วโทรไปสอบถามปรากฏว่า บ้านยังสร้างไม่เสร็จเลย
1. ดิฉันจะทำอย่างไรดีคะ กับบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จเพราะในสัญญาเขาไม่ได้ระบุวันที่โอนกรรมสิทธิ์เนื่องจากว่าวันที่ทำ
สัญญาพนักงานขายบอกว่าจะสร้างเสร็จก่อนผ่อน งวดดาวแน่นอนเลยไม่ต้องระบุวันที่โอนก็ได้
2. ได้โทรไปสอบถามเป็นระยะ ๆ พนักงานบอกว่าคาดว่าจะสร้างเสร็จปะมาณกลางปีหน้าตอนนี้ยังไม่ได้ขึ้นหลังคาเลย
3. มีคนแนะนำว่ารวมถึงพนักงานขายด้วยว่าสามารถเรียกค่าเสียหายได้เนื่องจากการสร้างล่าช้าเพราะปกติถ้าผ่อนงวดดาวครบแล้ว
ภายใน สองเดือน 60 วันจะสามารถโอนได้ แต่ถ้ายังโอนไม่ได้สามารถเรียกค่าเสียหายได้ (แต่ของดิฉันไม่ได้ระบุวันที่ จะเข้ากรณีนี้ได้หรือเปล่า)
4. จะมีวิธีการใดดีที่สุดสำหรับปัญหาหรือทางออกนี้คะ รบกวนช่วยให้ความกระจ่างด้วยค่ะ
 

ขอบคุณค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ TK (no-at-no-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2011-12-30 11:01:52 IP : 171.99.128.38


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3312746)

 

 
             เรื่องสัญญาจะซื้อจะขายและวางเงินมัดจำนี้ปกติเพื่อความละเอียดก่อนตอบคำถามทนายความจะต้องศึกษาและอ่านตัวสัญญาแล้ว แต่เมื่อไม่มีสัญญาฯดังกล่าวแนบมาก็ตอบภาพรวมคร่าวได้ดังนี้ครับ
กรณีของคุณต้องพิจารณาเริ่มแรกเลยว่าการเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายและวางเงินมัดจำนั้น ใครเป็นคนร่างสัญญา ซึ่งในกรณีนี้อาจเป็นสัญญาที่ทางผู้จะขาย ( ผู้ประกอบการ หรือประกอบธุรกิจ )เป็นฝ่ายทำสัญญามาแล้ว ซึ่งเมื่อฝ่ายผู้ประกอบการทำสัญญา สัญญาบางข้อต้องมีการร่างขึ้นเอาเปรียบ อันนำไปสู่ข้อสัญญาไม่เป็นทำด้วย   ประการต่อมากรณีที่ผู้ประกอบการไม่ปฎิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขาย คุณก็สามารถบอกเลิกสัญญาหรือบอกกล่าวทวงถามไปก่อน เพื่อให้เขาปฎิบัติตามสัญญาเพื่อบังคับให้เป็นไปตามสัญญา  หากเขาเพิกเฉยหรือละเลยก็สามารถเรียกค่าเสียหายจากเขาได้
             ข้อแนะนะ 1. ให้ทนายทำหนังสือบอกกล่าวทวงถามเพื่อให้เขาปฎิบัติตามสัญญา
                           2. หากเพิกเฉยก็ต้องพิจารณาว่าจะบอกเลิกสัญญาพร้อมเรียกค่าเสียหายหรือจะบังคับให้เขาสร้างบ้านให้เสร็จตามสัญญา
                           3. ร้องคดีต่อ สคบ.  ( ไม่มีค่าใช้จ่าย )
                           4. ฟ้องคดีต่อศาล  โดยการฟ้องในฐานะผู้รับบริการหรือผู้บริโภค จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลและค่านำหมาย ครับ
            
ผู้แสดงความคิดเห็น ท.ธีรภัทร์ 0815666656 (ttapjan-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-12-30 11:08:09 IP : 171.99.128.38


ความคิดเห็นที่ 2 (3312747)

ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ...มีข้อคำถามอีกนิดค่ะ
 
มีข้อบังคับหรือมาตราไหนไม๊คะ ที่บอกว่าถ้าผ่อนงวดดาวหมดแล้วภายในกี่วันจึงจะโอนบ้านได้
 
สัญญาขายเขาทำมาเองทางเราเซ็นอย่างเดียวค่ะ และเป็นแบบฟอร์มเดียวกันทั้งหมดทุกหลัง
 
ขอบคุณค่ะ..
 

ผู้แสดงความคิดเห็น TK วันที่ตอบ 2011-12-30 11:10:45 IP : 171.99.128.38


ความคิดเห็นที่ 3 (3312748)

             จากทีสอบถามเพิ่มเติมตอบได้ว่า ข้อกฎหมายนั้นไม่มีครับว่าจะบังคับโอนกี่วัน เพราะเป็นเรื่องที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันครับ  
            
 
                     ทั้งนี้ อยากให้ลองศึกษาเทียบเคียงจากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3274/2553 ดูครับ ซึ่ง เป็นคดีที่ฟ้องเรื่องการบอกเลิกสัญญา โดยมีรายละเอียดดังนี้
                     จำเลยประกอบกิจการจัดสรรและพัฒนาที่ดินเพื่อเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปได้ทำแผ่นพับโฆษณาและหนังสือโฆษณา โดยระบุเกี่ยวกับการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคต่างเกี่ยวกับที่ดินของจำเลยที่เสนอขาย เมื่อโจทก์ผู้ซื้อได้ตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายฯในโครงการของจำเลย โดยได้พิจารณาโครงการ ทำเลที่ดินและเงื่อนไขต่างๆที่ระบุกำหนดไว้ในแผ่นพับโฆษณาและหนังสือโฆษณา เป็นส่วนสำคัญ จำเลยจะกลับมาปฎิเสธในภายหลังเพื่อมิต้งดำเนินการตามคำพรรณาที่ได้โฆษณาไว้ย่อมไม่เป็นการชอบ ทำให้โจทก์ต้องเสียเปรียบ แม้ว่าสัญญาจะซื้อจะขายฯมิได้กำหนดระยะเวลาในการพัฒนาที่ดินให้แล้วเสร้๗ก็มิได้หมายความว่าจำเลยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จเมื่อใดก็ได้ตามความต้องการของจำเลย จำเลยควรทีจะต้องพัฒนาที่ดินให้เสร็จภายในระยะเวลาอันสมควร ทั้งโจทก์ได้ชำระเงินดาวน์ให้แก่จำเลยครบถ้วนแล้ว เมื่อนับแต่วันทำสัญญาจนถึงวันที่โจทกก์กำหนดระยะเวลาให้จำเลยดำเนินการพัฒนาที่ดินให้แล้วเสร็จล่วงเลยระยะเวลาถึงเกือบ สามปี จำเลยก็ยังมิได้ก่อสร้างฯตามคำพรรณนาให้แล้วเสร็จ พฤติการณ์การกระทำของจำเลยดังกล่าวย่อมถือได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์จึงมีสิทธิโดยชอบที่จะบอกเลิกสัญญาได้.........โจทก์บอกเลิกสํญญาจำเลยจะต้องค้นเงินที่ได้รับพร้อมดอกเบี้ยตั้งแต่เวลาที่รับไป   ..ครับ 

  หมายเหตุ.คำพิพากษาศาลฎีกาในคดีนี้ ยังคงให้โจทก์เรียกค่าเสียหายได้ด้วยนะครับ                                                                                                                               

ผู้แสดงความคิดเห็น ท.ธีรภัทร์ 0815666656 (ttapjan-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-12-30 11:13:33 IP : 171.99.128.38


ความคิดเห็นที่ 4 (3358335)

สามี ทำงานบริษัทต่างจากภูมิลำเนาเดิม เจ้าของที่ทำงานประสงค์จะซื้อบ้านเป็นเงินสดให้ สามีดิฉันผ่อน ไม่ทราบว่าต้องใช้สัญญาแบบใด เพราะระยะผ่อนก็เรากำหนด คาดว่า 20 ปี บ้านราคาสูงและยังเป็นเคสแรกในบริษัทด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อม วันที่ตอบ 2012-10-26 21:55:14 IP : 27.55.8.212



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล