ผมซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านตึก จากธนาคารกรุงไทย ซึ่งทางธนาคารได้มาจากการบังคับคดีจำนอง และขายทอดตลาด เมื่อเสนอซื้อธนาคารแจ้งว่ามีเจ้าของบ้านเดิมและญาติอยู่อาศัย ทางผู้ซื้อต้องรับภาระการดำเนินการกับผู้อยู่อาศัยเอง   และตอนนี้ได้รับโอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อผมแล้ว มีข้อสงสัยเรียนปรึกษาว่า จะต้องดำเนินการต่ออย่างไรตามข้อ 1 หรือ ข้อ 2  และขอทราบถึงเทคนิคกฎหมายที่ต้องมีข้อควรระวังในการประวิงเวลาการออกจากบ้านเรา ของเจ้าของเดิมและบริวาร อย่างไร

1. ฟ้องขับไล่เป็นคดีใหม่ หรือ

2.  ดำเนินการต่อจากคดีของธนาคาร ทำการบังคับคดีต่อ  โดย มาตรา309ตรี นี้

มาตรา 309 ตรี  เมื่อ จบค.โอนอสังหาริมทรัพย์ที่ขายให้แก่ผู้ซื้อ หากทรัพย์สินที่โอนนั้นมีลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารอยู่อาศัย และลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารไม่ยอมออกไปจากอสังหาริมทรัพย์นั้น ผู้ซื้อชอบที่จะยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่อศาลที่อสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่ในเขตศาลให้ออกคำบังคับให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารออกไปจากอสังหาริมทรัพย์นั้น ภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนด แต่ไม่น้อยกว่าสามสิบวัน ถ้าลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ ให้บังคับตาม ม296ทวิ ม296ตรี ม296จัตวา ม296ฉ ม 296สัตต ม299 ม300 ม301 และ ม302 โดยอนุโลม ทั้งนี้ให้เจ้าพนักงานศาลเป็นผู้ส่งคำบังคับโดยผู้ซื้อมีหน้าที่จัดการนำส่ง และให้ถือว่าผู้ซื้อเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบริวารที่อาศัยอยู่ในอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาตามบทบัญญัติดังกล่าว

เนื่องจากศึกษาจาก ป.วิ แพ่งฯ และจากการศึกษาท้ายประกาศ(หมายเหตุ) ซึ่งเป็นเหตุผลของการปรับปรุง พรบ. ก็เพื่อให้เกิดความทันต่อเหตุการณ์ของผู้คน และต้องการให้กระชับในขั้นตอนของคดี และเป็นประโยชน์ต่อทุก ๆ ฝ่าย  จึงเกิดความสงสัย  นัยของข้อความที่เขียนไว้ ว่าเป็นเพียงธนาคาร หรือเป็นทั้งผู้ซื้อทรัพย์ต่อจากธนาคารแล้วด้วย (เพราะหากต้องไปเริ่มแบบข้อ 1 )