แม่พาลูกหนีออกจากบ้าน พ่อต้องการเอาลูกมาดูแล | |
หมายเหตุ ; พ่อ (หลานชาย) แม่ (หลานสะใภ้) หลานชายแต่งงานงานกับหลานสะใภ้ แต่ไม่จดทะเบียน มีลูกด้วยกัน 1 คนเป็นผู้หญิง อายุตอนนี้ ประมาณ 8 เดือน หลานสะใภ้เข้ามาอยู่บ้านหลานชาย (เป็นบ้านของตา) อยู่กันก็มีเรื่องทะเลาะกันหลานสะใภ้เคยคิดจะหนีออกจากบ้านมา 2 ครั้ง และขู่จะเอาลูกไปด้วย(ชอบขู่เอาลูกไป) จนเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ตอนเที่ยงคืน (คืนวันที่26) พอหลานสะใภ้กลับมาจากบ้านแม่ที่ชัยภูมิ ก็มีอาการแปลก ๆ ไม่พูดไม่จากับคนในบ้าน และหาว่าหลานชายไปมีผู้หญิงอื่น และหาเรื่องทะเลาะ พอตกกลางคืนก็หอบลูกหนีออกจากบ้านไป ไปอยุ่บ้านเช่าของป้าที่อยู่ในซอยเดี่ยวกัน พอหลานไปตามป้าของหลานสะใภ้ก็เอามีดออกมาถือขู่ แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไร พอตกกลางคืนหลานสะใภ้ก็มาที่บ้านเพื่อที่จะเอาเสื้อผ้า ถ้าเราไม่ให้เพราะบอกว่าให้มาพร้อมกับพ่อ แม่ของหลานสะใภ้ เพราะทำไม่ถูก เลยนัดกันวันที่รุ่งขึ้นตอน หกโมงเย็น แต่ฝ่ายหญิงไม่มา พอโทรไปถามก็บอกว่ากลับชัยภูมิไปแล้ว แล้วหลานสะใภ้จะเลี้ยงหลานเอง แต่ทางเราไม่ยอม เราสามารถที่จะขอสิทธิ์การเลี้ยงบุตรได้หรือเปล่าค่ะ ทางเราต้องการจะฟ้องขอเป็นผู้เลี้ยงดูแต่เพียงผู้เดี่ยว
***** หลานสะใภ้ หลานชายอายุ 25 ปี หลานชายมีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง หลานสะใภ้ ตอนนี้ตกงานเพราะออกจากงานที่ กทม. เพราะหนีกลับบ้านที่ชัยภูมิ (บริษัทที่ทำอยู่ก่อนออก น้าเขยของหลานชายเป็นคนค้ำประกัน ตอนนี้ถอนค้ำแล้วค่ะ) หลานสะใภ้ติดหนี้เพื่อนที่ทำงานและหนีไป ตอนนี้ทางบริษัทกำลังตามอยู่ หลานชายมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่เสียค่าเช่า (ทีบ้านมี ตา ยาย พ่อและแม่ พี่ชายของหลานชาย) ญาติพี่น้องที่สนิททุกคนมีงานทำ และคอยให้ความช่วยเหลือทุกอย่างตั้งแต่หลานสะใภ้คลอดจนเลี้ยงหลาน พ่อหลานสะใภ้ ทำงาน กทม. แม่อยู่ต่างจังหวัดทำงานรับจ้างและส่งเสียน้องชายอีกคนเรียนอยู่ ป้าหลานที่หนีไปอยู่ด้วย อยุ่บ้านเช่า ลูกสาวของป้าทำงานอยู่ที่พัทยา รายละเอียดเหล่านี้ ทางเราสามารถที่จะฟ้องขอรับหลานมาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียวได้ไหมค่ะ ****ดิฉัน เป็นน้าสาว ยังไม่แต่งงาน มีการงานที่มั่นคงและอยากรับหลานเป็นลูกบุตรธรรม และ พร้อมที่ออกค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู ศึกษาเล่าเรียนของหลานทุกอย่าง ทางดิฉันสามารถทำอะไรได้บ้านค่ะ เพราะไม่อยากให้หลานต้องไปอยู่กับแม่ที่ไม่มีความรับผิดชอบ ที่คอยเอาหลานมาเป็นเครื่องต่อรอง เพราะเค้ารู้ว่าทางครอบครัวดิฉันรักหลานกันทุกคน
รบกวนช่วยตอบด้วยค่ะ ตอนนี้เป็นห่วงหลานมาก
| |
ผู้ตั้งกระทู้ วารุณี (noople_narak-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2010-05-01 11:44:09 IP : 111.84.13.233 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3187773) | |
ประเด็นที่คุณต้องการสอบถามมีอยู่สองประเด็นคิอ 1.หลานชายคุณจะขออำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียวได้หรือไม่ 2.คุณจะขอรับหลานเป็นบุตรบุญธรรมได้หรือไม่ กรณีที่ 1. การขออำนาจปกครองบุตรแต่เพียงลำพังต้องร้องขอต่อศาล โดยต้องแสดงให้ศาลเห็นว่า เด็กจะได้รับความเป็นอยู่ที่ดี ได้รับการศึกษา ไม่ต้องตกระกำลำบาก ได้รับความอบอุ่น ความปลอดภัย ทั้งนี้ การที่ศาลจะมีคำสั่งดังกล่าวหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับพฤติการณ์แห่งกรณี หรือข้อเท็จจริง เป็นเรื่องๆไป เมื่อพิจารณาต่อไปอีกว่าถ้าหากเด็กเลือกอยู่กับมารดา และเขามีความสุขที่ได้อยู่กับมารดา และมารดาก็รักบุตรมาก ไม่มีสามีใหม่ ไม่ให้ลูกอดอยาก ให้การศึกษาแก่บุตรตามกฎหมายได้ เขาก็มีสิทธิได้ปกครองบุตรที่เขาอุ้มท้องมานานเก้าเดือน ( ตรงนี้เป็นความผูกพันที่มากครับ ) ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมของศาล โดยคำนึงถึงความผาสุข ของเด็กเป็นหลักครับ กรณีที่ 2 ป.พ.พ.มาตรา1598/21 การรับผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรมจะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมของบิดาและมารดาของผู้จะเป็นบุตรบุญธรรม ในกรณีที่บิดาหรือมารดาคนใดคนหนึ่งตายหรือถูกถอนอำนาจปกครองต้องได้รับความยินยอมของมารดาหรือบิดาซึ่งยังมีอำนาจปกครอง ถ้าไม่มีผู้มีอำนาจให้ความยินยอมดังกล่าวในวรรคหนึ่ง หรือมีแต่บิดาหรือมารดาคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนไม่สามารถแสดงเจตนาให้ความยินยอมนั้นปราศจากเหตุผลอันสมควรและเป็นปฎิปักษ์ต่อสุขภาพ ความเจริญหรือสวัสดิภาพของผู้เยาว์ มารดาหรือบิดาหรือผู้ประสงค์จะขอรับบุตรบุญธรรมหรืออัยการจะร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งอนุญาตแทนการให้ความยินยอมตามวรรคหนึ่งก็ได้ กรณีที่สองที่ยกกฎหมายมานี้ เมื่อพิจารณาเบื้องต้นแล้ว เมื่อปรับกับกรณีของคุณ หากมารดาของเด็กถูกถอนอำนาจปกครอง ก็ต้องให้บิดาของเด็กให้ความยินยอม แต่หากมารดายังมีอำนาจปกครอง แต่ไม่ยินยอมยกบุตรให้เป็นบบุตรบุญธรรม โดยปราศจากเหตุผลอันสมควรและเป็นปฎิปักษ์ต่อสุขภาพ ความเจริญหรือสวัสดิภาพของผู้เยาว์ ก็ต้องร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งอนุญาตแทนการให้ความยินยอมของมารดาของเด็ก | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายธีรภัทร์ 0816669150 (ttapjan-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-05-01 19:01:52 IP : 124.120.11.10 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3188199) | |
ขอบคุณมากค่ะ ถ้ามีปัญหาจะติดต่อคุณทหนายนะค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น วารุณี (noople_narak-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-05-03 18:14:24 IP : 115.67.211.153 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3276985) | |
ดิฉันอยู่กับสามีเป็นเวลา 12 ปี มีลูก 2 คน สามีเป็นคนไม่มีงานทำ เพราะดิฉันมีอาชีพที่มั่นคงกว่า ดิฉันจ่ายค่าบ้าน ค่ารถ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน ค่าเล่าเรียนลูก 2 คน ระยะหลังก็มีเรื่องทะเลาะกับสามีบ่อยขึ้น เขาบอกว่าเบื่อเลี้ยงลูก อยากทำงาน ซึ่งเท่าที่ดูก็จะมีอาชีพเดียวคือขับรถ แต่คงทำได้ไม่นานเพราะเขาเป็นคนไมอดทน ไม่ขยัน นอกจากนี้ญาติพี่น้องเขาก็เยอะ ชอบมีเบียดเบียนที่บ้านเป็นประจำ ซึ่งก็แน่ล่ะว่าค่าใช้จ่ายก็ตกอยู่กับดิฉัน ยังมีอีกเรื่องคือสามีชอบจะขอกุ๊กกิ๊กด้วยซึ่งบ่อยครั้งดิฉันเหนื่อยและอยากพักผ่อน แต่เขาก็ไม่ยอม ดิฉันจึงต้องจำทนขมขื่นใจมาตลอดซึ่งเป็นความทุกข์อย่างหนึ่ง สามีชอบทำกิริยา วาจาก้าวร้าวใส่ดิฉัน ซึ่งพื้นฐานเดิมก็คงจะมาจากที่บ้าน ที่ไม่มึผู้อบรมที่ดี สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้ดิฉันเสียสุขภาพจิต จึงคิดอยากจะอยู่กับลูกตามลำพัง ด้วยความแตกต่างทั้งวัย ฐานะ ความรู้ สังคมแวดล้อม และพิ้นฐานการอบรมที่ต่างกันมาก ทำให้ดิฉันตัดสินใจเลิกกับเขา ดิฉันบอกให้สามีว่าความสัมพันธ์เราจะไม่เหมือนเดิม เพราะตอนนี้รับไม่ได้แล้ว จะตั้งใจทำงานหาเงินให้ลูกอย่างเดียว แต่ลูกก็จะให้อยู่โรงเรียนด้วยกันที่นี่ เขาจะไปหางานทำก็ได้ถ้ามีเงินพอจะส่งช่วยลูกก็ได้ ขอให้ยึดถือว่าลูกเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เราต้องให้สิ่งที่ดีทึสุดกับเขา และสามียังสามารถจะอยู่บ้านหลังนี้ได้เพื่อให้ลูกได้มีพ่อแม่อยู่พร้อมกัน แต่เขาไม่ยอมขู่จะเอาลูกทั้งสองคนซึ่งยังอยู่ชั้นอนุบาลหนึไป และก็ทำจริง เมื่อรู้ว่าเราไม่เอาแน่แล้ว ดิฉันโทรตามก็บอกว่ามาไกล อยู่บ้านญาติ ทั้งๆ ที่รู้ว่าพรุ่งนี้ลูกสาวจะมีสอบครึ่งภาคที่โรงเรียน เขาได้ยื่นข้อเสนอ 2 อย่าง อย่างแรกให้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมและมีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยา (โดยไม่คิดว่าดิฉันมีความพร้อมหรือไม่ และที่ผ่านมาดิฉันไม่เคยมีความรู้สึกอยากจะมีความสัมพันธ์เลย มันเป็นความทุกข์ใจที่สะสมจนทนไม่ได้แล้ว) อย่างที่2 คือให้ไปหย่าแล้วแบ่งลูกก้น ซึ่งดิฉันไม่ยอมพรากลูก 2 คนจากกันเพราะเขาเติบโตพร้อมกันมา และเขาก็ไม่มีปัญญาที่จะหาเลี้ยงลูกได้เลย คงให้ไปเข้าโรงเรียนวัดแถวบ้านต่างจังหวัด ดิฉันได้บอกว่าลูกสำคัญที่สุด เราต้องคิดถึงลูกก่อน แต่เขาบอกว่าเราต้องตัดสินใจก่อนแล้วลูกจะมาเป็นอันดับ 2 ดูแล้วเขาไม่รักลูกอย่างที่ควรจะเป็น จะปล่อยให้ลูกหมดอนาคตไปอยู่บ้านนอก เขารักที่จะได้ความสุขสบาย ไม่ต้องทำงาน ดิฉันเหมือนถูกมัดมือชกทีจะต้องหลอกล่อให้กลับมาอยู่ด้วยกัน และถ้ามีการฟ้องร้องที่ศาล ดิฉันก็เข้าใจว่าเราคงจะชนะที่จะเอาลูกมาได้ แต่เขาเป็นคนรุนแรง อาจทำถึงขั้นขู่ทำร้ายและดักพาลูกหนีไป ดิฉันจะทำอย่างไรดีคะ ดิฉันสงสารลูกมาก และรู้สึกว่าตัวเองโชคร้ายที่มาเจอคนพาล เอาแต่ได้ ครอบครัวทางเขาก็ไม่มีความเกรงใจ เอารัดเอาเปรียบมาตลอด และคุยโวโอ้อวดว่าลูกชายมีฐานะความเป็นอยู่ดี ทั้งที่ทุกบาททุกสตางค์เราเป็นคนหามาทั้งหมด คุณทนายมีข้อแนะนำมั้ยคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แม่ผู้ทุกข์ใจ วันที่ตอบ 2010-12-17 07:20:41 IP : 58.181.130.130 |
ความคิดเห็นที่ 4 (4056383) | |
สวัสดีค่ะรบกวนถามน่อยค่ะเปนเรื่องของพี่ชายค่ะพอดีว่าพี่ชายกับแฟนเค้าได้ทะเลาะกันแร้วก้อพาลุกสาวหนีไปแร้วติดต่อไม่ได้เลยค่ะครอบครัวทางอาเปนห่วงมากถามทางแม่ยายแร้วเค้าบอกไม่รุเรื่องไปอยุ่ไหนไม่รุ้มีวิทีไหนที่จาทำไห้ติดต่อได้แร้วแจ้งความได้ไหมค่ะหายนานแร้วเกือบๆเดือนค่ะหนังสือก้อไใ่ได้เรียนเปนห่วงมากๆควรทำไงดีค่ะรบกวนด้วยค่ะขอบคุนค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อาคิดถึงหลาน วันที่ตอบ 2017-05-26 22:39:27 IP : 223.24.158.170 |
ความคิดเห็นที่ 5 (4074863) | |
สอบถามค่ะ จดทะเบียนสมรส แต่ต้องการหย่ากับสามีเพราะมีปัญหากัน แต่สามีไม่ยอมหย่า ดิฉันพาลูกหนีออกมาและเค้าตามหาไม่เจอ เค้าขู่จะแจ้งความ ดิฉันสามารถทำอะไรได้บ้างค่ะเพื่อที่จะไม่ให้เค้าได้ลูกไป เค้าอ้างว่าเค้าคิดถึงลูกแต่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา เค้าสร้างแต่ปัญหามาให้ จนดิฉันทนไม่ไหวเรยขอเลิกแต่ยังที่บอกเค้าไม่ยอมดิฉันเรยหนีมา แบบนี้มีความผิดไหมค่ะ และสามารถขอหย่าแบบไม่เจอหน้าได้ไหมค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น หมวย (Nobell2557-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2017-08-30 12:20:20 IP : 171.7.141.165 |
[1] |