สวัสดีคะ

รบกวนปรึกษานะคะ พอดีคุณอาเขย มาชวนคุณพ่อ ไปทำสัญญา กู้ยืมเงินจาก ธนาคาร อาคารสงเคราะห์ เป็นจำนวน เงินต้น 880,000 บาท โดยอาเขยเป็นผูกู้ คนที่ 1 และพ่อดิฉันเป็นผู้กู้ร่วม
เมื่อประมาณ 20 ปีมาแล้ว โดยการนำ หลักทรัพย์คือ บ้านของอาเขย ที่ดินประมาณ 27 ตรว. พร้อมบ้าน อยู่แถว ๆ ท่าน้ำนนทบุรี ไม่ทราบพิกัดแน่ชัด
โดยอาเขยจะเป็นผู้รับผิดชอบในการฃำระเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งหมด เพราะเป็นคนนำเงินก้อนจำนวนนั้นไปใช้จ่ายเองทังหมด และได้ส่งชำระเงินเข้าแบงค์มาเป็นระยะเวลาประมาณหนึ่ง
ฟังจากเหตการณ์ที่ผ่านมา คือมีการขาดส่งบ้าง เป็นระยะ ๆ จนมาถึง แบงค์เรียกไปขึ้นศาล ซึ่งตอนนั้นดิฉันยังเด็กมาก ไม่ค่อยได้ยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่เท่าใดนัก เท่าที่สอบถามคือ ทั้งสองท่านได้ไปขึ้นศาล
และยอมรับภาระหนี้นั้น ๆ กับศาลแล้ว แต่ปีพศ. ใดนันจำไม่ได้แน่นอนคะ และไม่ได้ชำระหนี้ตามที่ตกลงไว้กับศาล
โดยคุณพ่อและอาเขย ก้ปล่อยเรื่องนีมา จนท้ายที่สุด เมื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ขายหนี้ ก้อนนี้ให้กับ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัดไป ตังแต่ 17 กรกฎาคม 2556 โดยทาง บสก.
ได้ส่งหนังสือ บอกกล่าวการโอนสิทธิเรียกร้องมาทางคุณพ่อ เมื่อวันที่ 17 มีค. 2557 คุณพ่อเลย ต้องการอยากจะเคลียร์เรื่องงนี้ให้จบ ก่อนที่ท่านจะเกษียณ ราชการ

ปล.คุณพ่อ ทำงานการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อเกษียณ อายุราชการจะได้รับเงินก้อนจำนวนนึง และเงินบำนาญเมือเกษียณ
จึงเกรงว่าจะผูกพันกับหนี้สินก้อนนี้
- คุณพ่อมีทีดินแปลงหนึ่งที่ อ.ศาลายา ต้องการยกที่ดินแปลงนี้ให้เป็นมรดกแก่ดิฉัน ซึ่งเป็นบุตรสาว ต้องทำอย่างไรคะ
ไม่ทราบดิฉันต้องดำเนินการอย่างไรก่อน/หลัง เพราะทาง บสก.ก้อให้เข้าไปพบ เพื่อพูดคุยเจรจา แต่ว่าทางดิฉัน ไม่รู้ข้อกฎหมายมาก กลัวว่าเข้าไปจะกลายเป็น ถูกไล่ต้อนให้ชำระหนี้ พร้อมดอกเบี้ยด้วยเลย
เห็นฟังคร่าว ๆ ว่า ต้นรวมดอก ปาไปเกือบ 3 ล้านบาท
ซึ่งจริง ๆ จากที่ศึกษา มาเล็กน้อย พอทราบว่า  บสก. ซื้อหนี้มาจากธนาคารเป็นล๊อตใหญ่ ยอดหนี้ที่แบงค์ขายมาให้
ไม่รวม ดอกเบี้ย และน่าจะไม่เกิน 20-30% ของยอดเงินกู้ ไม่ทราบว่า ดิฉันเข้าใจผิดถูกหรือไม่ อย่างไรคะ

รบกวน ขอคำแนะนำ และคำปรึกษาด้วยคะ